ความเป็นมาของ Windows Mobile


ความเป็นมาของ Windows Mobile

          เมื่อสิบปีที่แล้ว บริษัทไมโครซอฟท์ออกโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ในคอมพิวเตอร์ขนาดมือถือ (handheld personal computer กินความถึงโทรศัพท์แบบ Smartphone ด้วย ต่อไปจะเรียกย่อว่า HPC) เพื่อตอบโต้ระบบปฏิบัติการ Palm OS ที่ไมโครซอฟท์มองว่าเป็นภัยคุกคาม ระบบ ปฏิบัติการใน HPC แตกต่างจากระบบปฏิบัติการในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เพราะระบบปฏิบัติการใน HPC จะอยู่ภายใน Flash ROM ส่วนระบบปฏิบัติการในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จะเป็นตัวเดียวกับในคอมพิวเตอร์แบบ Desktop หรือ PC เนื่อง จาก HPC มีทรัพยากรจำกัด คือมีหน่วยความจำน้อย มีซีพียูที่ไม่เร็วนัก มีจอขนาดเล็ก และไม่มีเมาส์ บริษัทไมโครซอฟท์จึงตัดสินใจ สร้างระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับ HPC โดยเฉพาะชื่อ Windows CE โดยแกน หลักของ WinCE มีขนาดเพียงหนึ่งเม็กกะไบต์ ถูกนำไปใช้เป็นหัวใจของระบบปฏิบัติการหลายตัว เช่น Pocket PC 2000, Pocket PC 2002, Mobile 2003, Mobile 2003 SE, Mobile 5.0, Smartphone 2002, Smartphone 2003 และแม้กระทั่งในเครื่องเล่นเกมอย่าง Sega Dreamcast
          WinCE ออกเวอร์ชันแรกในปี 1996 และถูกปรับรุ่นมาเรื่อยจนล่าสุดในปี 2006 เป็นเวอร์ชัน 6.0 ส่วน WM6 มีแกนหลักเป็น WinCE 5.0 สาเหตุที่ไม่ใช้ WinCE 6.0 ก็เพราะต้องการให้เข้ากันได้ของซอฟท์แวร์เดิม จากการทดสอบพบว่าซอฟท์แวร์ใน WM5 สามารถทำงานใน WM6 ได้อย่างราบรื่นทุกตัว
Windows Mobile ถูกปรับรุ่นและเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้งดังนี้

• Palm PC v1.0/1.2 เปิดตัวเดือนมกราคม 1998


• Pocket PC 2000 (Palm-size PC v2) เปิดตัวเดือนเมษายน 2000 


• Pocket PC 2002 เปิดตัวเดือนตุลาคม 2001


• Windows Mobile 2003 เปิดตัวเดือนมิถุนายน 2003


• Windows Mobile 2003 Second Edition เปิดตัวเดือนมีนาคม 2005


• Windows Mobile 5.0 เปิดตัวเดือนพฤษภาคม 2005


• Windows Mobile 6.0 เปิดตัวเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007


• Windows Mobile 6.1 เปิดตัวเดือนเมษายน ค.ศ. 2008 


• Windows Mobile 6.5 เปิดตัวเดือนตุลาคม ค.ศ. 2009 
 
          เมื่อไมโครซอฟท์ได้ฤกษ์เปิดตัว Windows Mobile 6.5 (หรือแบรนด์ใหม่ Windows Phone ที่กำลังพยายามสร้าง) อย่างเป็นทางการ ของใหม่ใน Windows Mobile 6.5 เรื่องหลักๆ ก็เรื่องหน้าจอ Today Screen แบบใหม่ เป็นเมนูเรียงลงมา คล้ายๆ กับหน้าจอของ Zune (เครื่องเล่น MP3 ของ บริษัทไมโครซอฟท์) อย่างไรก็ตามในมือถือ Windows Mobile ส่วนใหญ่มักจะใช้ Today Screen ของยี่ห้อตัวเอง (เช่น TouchFLO ของ HTC หรือ TouchWiz ของซัมซุง)

      • หน้าจอ Start แบบใหม่ จากเดิมที่ใช้เมนูสำหรับเรียกโปรแกรม ก็กลายมาเป็นไอคอนแบบมือถือรุ่นใหม่ๆ อย่าง iPhone ความต่างอยู่ที่ไมโครซอฟท์ใช้ตารางแบบรังผึ้งหกเหลี่ยม เรียงสับหว่างกัน
      • ปรับ UI ให้เหมาะกับนิ้วมือมากขึ้น อย่างไรก็ตาม Gizmodo วิจารณ์ว่าเฉพาะหน้าจอหลักๆ เท่านั้น พอขุดเข้าไปในตัวเลือกย่อยๆ ก็ยังเล็กและกดยากถ้าไม่ใช้สไตลัสช่วย (ปัญหานี้เจอกับ BlackBerry OS เหมือนกัน)
      • Mobile Internet Explorer 6 พัฒนาขึ้นจาก IE5 บน Windows Mobile มาก แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Opera แล้วยังห่างชั้น เทียบกับเบราว์เซอร์ของ Zune HD ก็ยังตามหลัง
      • Windows Marketplace อันนี้ไม่ใช่ฟีเจอร์ที่มีเฉพาะ Windows Mobile 6.5 เพราะใช้กับ 6.1 ก็ได้ ตอนนี้ยังมีโปรแกรมไม่ค่อยเยอะนักเพราะว่าเพิ่งเปิดตัว แต่ก็มีศักยภาพที่ดีในอนาคต
      • My Phone บริการแบ็คอัพและสนับสนุนการใช้งานอื่นๆ ใช้กับ 6.1 ได้เช่นกัน มีฟีเจอร์ตามหาโทรศัพท์แบบเดียวกับ Find My iPhone ที่เจ๋งคือ สามารถสั่งเปิดเสียงโทรศัพท์แบบรีโมทได้ ใช้กรณีปิดเสียง แล้วโทรเข้าก็ยังหาเครื่องไม่เจอ

          ด้านประสิทธิภาพ Gizmodo วิจารณ์ว่าไม่ต่างอะไรกับ Windows Mobile 6.1 เพราะข้างใต้เป็น Windows CE 5.2 เหมือนกัน Windows Mobile เวอร์ชั่นล่าสุดคือ 6.5 และ เวอร์ชั่น 7 ที่กำลังเป็นที่คาดหวังในปีหน้า และในวันนี้เอง Microsoft ก็เตรียมแผนสำหรับเวอร์ชั่นที่ 8 เรียบร้อยแล้ว

          นายสตีฟ บอลเมอร์ได้มีการกล่าวถึง Windows Mobile 7 ที่เป็นเวอร์ชั่นที่กล่าวขวัญถึง และเป็นที่รอคอยสำหรับคอ Windows Mobile กับการคาดหวังที่จะเพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น โดยการวางแผนในครั้งนี้คำนึงถึงในหลายด้าน จากหน่วยงาน Entertainment & Device ซึ่งจะทำให้ Windows Mobile ในอนาคตมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย นำหน้าคู่แข่ง รวมถึงการออกแบบให้มีประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้งาน พร้อมทั้งวางแผนธุรกิจให้ดำเนินไปได้โดยที่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ และ ความคุ้มค่าในการลงทุนในธุรกิจ ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดของ Windows Mobile 8 มากนัก เพียงรู้แค่ว่า Microsoft เริ่มวางแผนงานไปเรียบร้อยแล้ว และคงเริ่มพัฒนาในอีกไม่นานนี้ แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องดูผลตอบรับของเวอร์ชั่นปัจจุบันอย่าง 6.5 และ เวอร์ชั่น 7 ที่มีความคาดหวังในระดับหนึ่งเสียก่อน ก่อนที่จะมองไปถึงเวอร์ชั่นที่ 8, 9 หรือ 10 และคงปฎิเสธไม่ได้ว่าคู่แข่งมือฉมังอย่าง Apple ก็คงจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาตลอดและมักจะล้ำอยู่เสมอ และแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ทยอยออกมาแล้วในปัจจุบันและที่จะออกมาเพิ่มเติมในอนาคตอีก

          สรุปคือ
          หาก Windows Mobile 7 ได้ออกสู่สายตาประชาชนและได้ใช้งานจริงในปลายปีหน้า (2010) Windows Mobile 8 ก็คงจะต้องรอต่อไปอีกไม่ต่ำกว่า 1 ปีโดยประมาณ ในระหว่างนี้หากใครใช้ Windows Mobile 6.5 แล้วไม่ประทับใจก็คงต้องรอกันอีกนาน หรืออีกหนึ่งทางเลือกก็คือ เปลี่ยนแพลตฟอร์มใหม่อย่าง iPhone หรือ BB หรือ Android

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น